ขณะนี้เวลาตี ๕ ป๊อปลุกขึ้นมาเปิดแลปทอป
นั่งพิมพ์บทความนี้เป็นอย่างแรกอย่างกระตือรือร้นทั้งที่ยังไม่ได้แปรงฟัน
ถ้าคุณผู้อ่านกำลังคิดว่าป๊อปคงเป็นคนขยันแบบนี้ตั้งเด็กๆล่ะก็ ผนิดถนัดเลยค่ะ
ป๊อปเคยเป็นคนขี้เกียจและชอบผัดวันประกันพรุ่งสุดๆ
ชนิดที่ว่าถ้านิตยสาร Time ทำสำรวจบุคคลที่ขี้เกียจที่สุดในโลกขึ้นมาล่ะก็
ป๊อปคงติดอับดับ ๑ ใน ๑๐๐ แหงๆ
แต่วันนี้ป๊อปค้นพบสุดยอดวิธีเปลี่ยนตัวเองจากคนขี้เกียจเป็นคนขยันได้แล้วค่ะ ^_^
เช้านี้เลยต้องรีบมาแบ่งปันเทคนิคที่ธิลักษ์นำไปใช้แล้วได้ผล
แก่เพื่อนๆชาวแกงค์ (คนขี้เกียจอยากขยัน) กันสักหน่อย
วิธีที่๑ พูดกับตัวเองในสิ่งที่อยากทำในวันพรุ่งนี้ตอนก่อนจะตื่นและก่อนจะนอน
บอกได้เลยว่า ที่วันนี้ป๊อปตื่นมาเขียนบทความนี้เป็นอย่างแรก
ก็เพราะป๊อปพูดกับตัวเองก่อนตื่นและก่อนนอนแบบนี้มาเมื่อวานนี่แหละค่ะ
สำหรับเทคนิคนี้ป๊อปได้ฟังจากผู้เชี่ยวชาญมาหลายคน แรก ๆ ก็ไม่ค่อยอยากเชื่อ
แต่ได้ยินบ่อยขึ้น ๆ จนชักรู้สึกข้องใจ ที่ทั้งบุคคลระดับโลก ทั้งนักจิตวิทยา
ที่โดยส่วนใหญ่ก็ยืนยันเลยว่า เขานี่แหละคืออดีตคนขี้เกียจสุด ๆ
และหนึ่งในวิธีที่ทำให้เขาหายขาดจากนิสัยดังกล่าวได้ ก็คือวิธีที่ว่านี้แหละค่ะ
สารภาพตรง ๆ เลยว่า เคยแอบคิดว่าวิธีอะไรก็ไม่รู้ ฟังดูเพี้ยน ๆ ยังไงชอบกล
คุณผู้อ่านบางท่านก็อาจจะกำลังคิดแบบนี้ใช่ไหมคะ
ป๊อปเข้าใจค่ะ เพราะอะไรที่คนขี้เกียจชอบคิด
บอกเลยว่าคนขี้เกียจระดับ Master อย่างป๊อป เคยคิดมาหมดแล้ว :P
ป๊อปลองทำตามเพราะรู้สึกว่า อยากลองให้มันรู้ๆไปเลย
ดีกว่าด่วยสรุปว่ามันคงไม่ได้ผลกับเราทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลองทำ
อีกอย่าง แต่ละคนที่บอกให้ทำวิธีนี้เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงทั้งนั้น
ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อได้ทำแล้วพบว่านี่คือวิธีที่ทรงพลังที่สุดในวิธีทั้งหมดที่เคยได้ทำมาเลย
ตื่นปุ๊บทำปั๊บในทุกอย่างที่พูดกับตัวเองช่วงเคลื้มหลับเคลิ้มตื่นไว้เป๊ะเลย
เป๊ะขนาดที่ว่า ก่อนการแปรงฟันจริง ๆ
(สงสัยคืนนี้ต้องใช้คำใหม่ว่า แปรงฟันล้างหน้าเป็นอย่างแรก แล้วค่อยตามด้วยอย่างอื่น :D )
ฉะนั้นหากคุณยังไม่เชื่อ คุณคงต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะนะคะ ^_^
เคล็บลับสำคัญคือ ต้องสร้างภาพในหัวไปพร้อมกันด้วย
ว่าตัวเองกำลังทำทุกอย่างเหล่านั้นอย่างมีความสุขมาก ๆ
และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำเทคนิคนี้ คือ ช่วงเคลื้มหลับเคลื้มตื่นค่ะ
(เคล็บลับส่วนตัวของป๊อปมีอีกอย่างคือ พึมพำกับตัวเองในใจในระหว่างวันด้วย
เช่นว่า “ฉันชอบนั่งแก้งาน(เขียน)ที่สุด ตื่นมาก็อยากทำเป็นอย่างแรกเลย”
ทั้งที่จริงก็ไม่ได้ชอบที่สุดหรอกค่ะ แต่พอพึมพำกับตัวเองว่าชอบบ่อย ๆ
ในที่สุดก็ชอบทำมันเป็นอย่างแรกของวันที่สุดจริง ๆ ^_^)
วิธีที่ ๒ เขียนชมตัวเองในเรื่องที่ทำสำเร็จอย่างน้อยวันละ ๕ รายการ
และเขียนข้อผิดพลาดหากไม่ยอมทำในสิ่งที่ควรทำในแต่ละวันด้วย
สำหรับความสำเร็จนั้นอย่างน้อยต้อง ๕ อย่างนะคะ แต่ยิ่งเยอะยิ่งดี
และเพื่อประสิทธิภาพที่ดี ถ้าสัญญาอะไรกับตัวเองวันนี้แล้วไม่ทำ เขียนมันลงไปด้วยค่ะ
แน่นอนว่าการบันทึกข้อผิดพลาดของตัวเอง มันคงไม่ใช่อะไรที่เราอยากจะเขียน
แต่หากคุณเลือกที่จะสัญญากับตัวเองแล้วว่า
คุณจะทำวิธีนี้ทุกวันจริง ๆ และจะเขียนอย่างซื่อสัตย์ด้วย
คุณจะรู้สึกละอายแก่ใจล่วงหน้าหากคิดจะทำอะไรเหลวไหล
และด้วยความที่คุณไม่อยากจะบันทึกความขี้เกียจของคุณลงไป
คุณจะมีความรู้สึกอยากทำในสิ่งที่ควรทำจริง ๆ ให้สำเร็จ
ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความสำเร็จให้เขียนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
เพราะการเอาชนะใจตนเองได้นั้นถือเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชม
ที่ต้องจดไว้เลยทีเดียวเชียวนะ :)
วันหน้าวันหลังกลับมาอ่าน จะได้รู้ว่าตัวเองเก่งแค่ไหนไงล่ะ ^_^
แต่ต้องขอบอกเลยค่ะว่า สำหรับชาวแกงค์คนขี้เกียจอยากขยันทั้งหลาย
ถ้าทำแล้วหยุดเขียนเมื่อไหร่ โอกาสจะกลับมาขี้เกียจเหมือนเดิมมีสูงมากค่ะ
เพราะฉะนั้นเริ่มแล้วอย่าเลิกค่ะ แต่ที่สำคัญต้องมีความซื่อสัตย์ในการเขียนด้วยนะคะ
ห้ามแอบละเว้นอะไรเป็นพิเศษกันนะตัวเอง เพื่อการพัฒนาของเราเอง
ถึงช่วงแรก ๆ จะมีแต่เรื่องน่าตำหนิตัวเองให้เขียนเยอะหน่อย
แต่ถ้ากล้าหาญที่จะทำวิธีนี้อย่างสม่ำเสมอ
ช่วงหลัง ๆ จะกลายเป็นไม่มีอะไรน่าตำหนิให้เขียนเองค่ะ รับรอง เพราะป๊อปทำสำเร็จมาแว๊ว! ^_^
วิธีที่ ๓ ทำทั้ง ๆ ที่ขี้เกียจ : เลือกทำในสิ่งที่ขี้เกียจทำสุด ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ ๑ อย่าง
กำหนดให้มี ๑ วันของสัปดาห์เป็นวันที่เราจะฝืนใจทำในสิ่งที่ขี้เกียจ
(แล้วค่อย ๆ ขยับเป็น ๖ วันครั้ง , ๕ วันครั้ง , ๔ >> ๓ >> ๒ ครั้ง >> วันเว้นเวัน
จนกระทั่งกลายเป็นวันละครั้งในที่สุด)
ยกตัวอย่าง : ถ้าเวลานั้นคุณกำลังรู้สึกว่า สิ่งที่ฉันขี้เกียจทำที่สุดของวันนี้แล้วคือล้างห้องน้ำ
ให้เลือกการล้างห้องน้ำเป็นสิ่งที่คุณจะทำในวันนั้นเลย
และรีบเริ่มทำมันเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
ไม่ว่าจะทำอย่างเอื่อยเฉื่อยแค่ไหน หรือในสภาพคลานไปทำ หรือทำไปร้องไห้ไปก็ตาม
ฝืนทำมันเลยค่ะ อย่ารออยากแล้วค่อยทำ
จำไว้ว่านี่คือขั้นตอนหนึ่งที่จะทำให้เราเปลี่ยนตัวเองไปเป็นคนขยันที่เราอยากเป็นอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น สู้กันมันค่ะ เจ้าความขี้กียจนี่แหละ อย่าไปยอมแพ้
บอกตัวเองไว้ สิ่งนี้จะทำให้ฉันเข้าใกล้ในสิ่งที่ฉันอยากเป็นที่สุด
สิ่งนี้จะนำพาฉันไปสู่การเป็นเจ้าของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
อย่าไปฟังเสียงปีศาจจอมขี้เกียจที่เอาแต่คอยโอ๋เราว่า พอแล้ว ๆ แกทำดีแล้ว พอเถอะ บลา ๆ ๆ ๆ
เสียงนั้นไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้น มีแต่จะทำให้ชีวิตคุณถดถอย
ใส่เสียงใหม่ให้กับตัวเอง เช่น ถ้าแค่นี้เราทำไม่ได้
วันนึงมีลูกมีหลานเราจะสอนเขาให้ทำในสิ่งที่เขาควรทำได้ยังไง
(อันนี้ประโยคส่วนตัวของป๊อปเองค่ะ อิอิ ^_^ )
บอกตัวเองว่านี่ไม่ใช่แค่การล้างห้องน้ำแต่มันคือทำสงคราม
ข้าศึกของเราคือเจ้าปีศาจจอมขี้เกียจ
เราจะวางแผนการรบยังไงก็ได้ ข้อแม้เดียวคือ ต้องรบให้ชนะเท่านั้น
แผนการรบในที่นี้ก็เช่น ถ้าให้ ล้างห้องน้ำเงียบ ๆ อาจทำให้รู้สึกทรมานไปหน่อยสำหรับคนขี้เกียจ
ก็ลองหาอะไรมาช่วยให้ตัวเองรู้สึกทรมานน้อยลง เช่น ฟังเพลงร๊อคไปด้วยล้างห้องน้ำไปด้วย
ลองฟังเพลงร๊อคไปด้วยทำไปด้วย แนะนำเพลง ยาพิษ ของวง Bodyslam
รับรองขัดตามดนตรีเพลงนี้ โถส้วมได้สะอาดเหมือนซื้อมาใหม่ :D
และเมื่อมันสำเร็จลง คุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง
จำความรู้สึกภูมิใจนี้เอาไว้ค่ะ แล้วเขียนมันลงไปในบันทึกความสำเร็จตัวโต ๆ ไปเลย
ว่านี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของคุณ
สมรภูมิรบครั้งต่อไป จะง่ายขึ้นเยอะ
และเพื่อให้ตัวเองมีกำลังใจในการทำทั้ง ๆ ที่ขี้เกียจในครั้งต่อไป
อย่าลืมให้รางวัลตัวเองสำหรับการชนะใจตัวเองในแต่ละครั้งนะคะ
ป๊อปเข้าใจค่ะว่า ข้อที่ทำยากที่สุดคือ ข้อ ๓
แต่ป๊อปอยากบอกนะคะว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับป๊อปคือ
ในทุกครั้งที่ป๊อปเริ่มทำด้วยความไม่อยากก็จริง แต่ในระหว่างที่ทำ ความอยากจะมาเองเสมอ
จนหลายครั้งป๊อปสามารถทำในสิ่งเคยคิดว่าไม่อยาก ต่อไปได้อีกเยอะเลย
ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นแต่แรก เช่น ตอนแรกว่าจะซักผ้าแค่ ๕ ชิ้น
ไป ๆ มา ๆ ไปเอามาซักหมดทั้งตระกร้าซะงั้น
การขี้เกียจในเรื่องที่สำคัญกับชีวิต เราอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่ถ้าเรามาทบทวนการใช้เวลาแบบคนขี้เกียจของตัวเองตลอดชีวิตของเราที่ผ่านมา
เราก็จะพบว่า ถ้าเราขยัน ๆ ป่านนี้เราก้าวหน้าไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ จริงไหมล่ะคะ
ตัวป๊อปเอง ก็ใช่ว่าทุกวันนี้จะชอบซักผ้า ลึก ๆ ก็อยากจ้างคนอื่นเขาทำอยู่เหมือนเดิมนี่แหละ
แต่ในเมื่อเรายังต้องทำเองอยู่ เราก็ต้องหาวิธีจัดการกับตัวเอง
เช่น ถ้าไม่ชอบซักผ้าทีละเยอะ ๆ ก็ซักทีละน้อย ๆ ทุกวัน
ในวันหนึ่งวัน เราทำอะไรได้ตั้งเยอะนะคะ
ทำไมเราเลือกที่จะทิ้งเวลาอันแสนมีค่าของเรา เผื่อนอนเปื่อยไปวัน ๆ
หรือทำแต่อะไรที่ไม่เป็นสาระ และไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นล่ะคะจริงมั๊ย?
คนไทยถ้าตั้งใจก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกนะคะ
แต่มันต้องเริ่มที่เลิกขี้เกียจในเรื่องที่จำเป็นก่อนนี่แหลค่ะ
และนี่ก็คือ ๓ วิธีที่ถือเป็นที่สุดสำหรับป๊อปในการเปลี่ยนตัวเองจากคนขี้เกียจเป็นคนขยันค่ะ ^_^
ถ้าคุณผู้อ่านไม่ค่อยแน่ใจว่า ๓ วิธีนี้จะได้ผลจริง ขอให้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองกันดูได้เลยนะคะ
ป๊อปขอเอาเกียรติของอดีตคนขี้เกียจเป็นประกันเลยว่ามันได้ผลแน่นอน ^_^
สู้ๆนะคะทุกคน ป๊อปจะอยู่เคียงข้างคอยเป็นกำลังใจให้เสมอคะ
ขอให้เลิกขี้เกียจกันได้เร็ว ๆ นะคะ ^_^
ด้วยรัก…เหมือนเดิมค่า ;)
ป.ล. แล้วอย่าลืมอ่านภาคต่อของบทนี้ในตอนที่มีชื่อว่า
“มาเขียนประวัติชีวิตล่วงหน้ากันเถอะ” (คลิกอ่านได้ที่ตัวหนังสือชื่อเรื่องได้เลยค่ะ)
อ่านแล้วรับรองขยันขึ้น รับรองผลล้านเปอร์เซนต์เลยทีเดียวเชียว ขอบอก ;)
_____________________________________________________________________
หากต้องการฝากคำถามหรือแนะนำติชม สามารถส่งมาได้ที่ tilucksacha@hotmail.com
หรือพิมพ์แจ้งไว้ที่คอมเมนท์ทางด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ